๑. คุณค่าทางวรรณศิลป์ กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานมีความไพเราะจากการสรรคำและ
การเล่นเสียง มีสัมผัสในแพรวพราว พรรณนาความได้ละเอียด วางคำได้จังหวะ
การเล่นเสียง มีสัมผัสในแพรวพราว พรรณนาความได้ละเอียด วางคำได้จังหวะ
การเล่นเสียงวรรณยุกต์ในคำว่า “หรุ่ม” “รุม” “รุ่ม” และเสียงพยัญชนะในคำว่า
“ร้อน” “รุม” “รุ่ม” ซึ่งนอกจากจะฟังไพเราะแล้ว ยังสื่อความรู้สึกได้อย่างชัดเจน
“ร้อน” “รุม” “รุ่ม” ซึ่งนอกจากจะฟังไพเราะแล้ว ยังสื่อความรู้สึกได้อย่างชัดเจน
การใช้ความเปรียบได้คมคาย ใช้โวหารภาพพจน์หลายอย่าง เช่น อุปมา อุปลักษณ์ อติพจน์
( การกล่าวเกินจริง ) ทำให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพวรรณคดีเรื่องนี้เข้าข่ายวรรณคดีบริสุทธิ์เพราะมุ่งเน้นความงดงามเชิงวรรณศิลป์ยิ่งกว่าอย่างอื่น นับเป็นวรรณคดีที่ถ่ายทอดอารมณ์ของกวีได้อย่างดียิ่ง
๒. คุณค่าทางสังคม กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานเป็นวรรณคดีที่สะท้อนวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาหาร
การกิน ที่นิยมในสมัยรัชการที่ ๒ บางชนิดเป็นอาหารที่เรารู้จักในปัจจุบัน เช่น มัสมั่น หมูแนม
ก้อยกุ้ง แกงคั่ว เป็นต้น แต่อาหารบางชนิดหารับประทานได้ยากในปัจจุบัน เพราะมีกรรมวิธีการปรุงหลายขั้นตอน มีเคล็ดลับในการทำ และทำให้อร่อยได้ยาก เช่น ล่าเตียง และหรุ่ม อาหารบางอย่างเป็นอาหารต่างชาติ ใช้เครื่องปรุงเฉพาะที่ทำให้มีรสชาติต่างไป เช่น ข้าวหุงปรุงเครื่องเทศ
“ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น”
การกิน ที่นิยมในสมัยรัชการที่ ๒ บางชนิดเป็นอาหารที่เรารู้จักในปัจจุบัน เช่น มัสมั่น หมูแนม
ก้อยกุ้ง แกงคั่ว เป็นต้น แต่อาหารบางชนิดหารับประทานได้ยากในปัจจุบัน เพราะมีกรรมวิธีการปรุงหลายขั้นตอน มีเคล็ดลับในการทำ และทำให้อร่อยได้ยาก เช่น ล่าเตียง และหรุ่ม อาหารบางอย่างเป็นอาหารต่างชาติ ใช้เครื่องปรุงเฉพาะที่ทำให้มีรสชาติต่างไป เช่น ข้าวหุงปรุงเครื่องเทศ
“ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น”
..วรรณคดีเรื่องนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าในยุคสมัยนั้นนิยมรับประทานอาหารประเภทใด อาหาร
และเครื่องปรุงบางอย่างเป็นของต่างชาติ ดังนั้นจึงสะท้อนภาพการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศได้อีกด้วย แสดงให้เห็นว่าอาหารไทยมีความประณีตบรรจงในการปรุงแต่ง และให้ความสำคัญกับความงดงามและรสชาติของอาหารควบคู่กันไป อาหารไทยจึงเป็นทั้งประณีตศิลป์และวิจิตรศิลป์ คนไทยได้ชื่อว่าเป็นเลิศในเรื่องฝีมือไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็ทำได้อย่างงดงาม ละเอียดประณีต อาหารไทยก็เช่นกัน ต้องอาศัยฝีมือในการปรุง นอกจากจะทำให้บริโภคอาหารได้มากแล้ว ยังมีลักษณะเป็นอาหารตา คือตกแต่งอย่างวิจิตรอีกด้วย การปรุงอาหารไทยให้มีกลิ่นหอม รสดี และมีความงดงามนั้น เริ่มตั้งแต่การรู้จักเลือกเครื่องปรุง ต้องเป็นของดี และผู้ปรุงต้องเลือกเป็นและเมื่อปรุงเสร็จแล้วยังต้องรู้จักวัดวางตกแต่งให้สวยงามน่ารับประทานทั้งรูปลักษณ์และสีสัน
การอ่านกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธ
เลิศหล้านภาลัยนี้ นอกจากจะได้ความรู้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้เห็นว่าอาหารเป็นเครื่องหมายแทนความรัก ความผูกพันและความเอื้ออาทรที่คนในครอบครัวมีต่อกัน การปรุงอาหารไทยจึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ฝีมือ ความประณีต และความตั้งใจในการประดิษฐ์ออกมาให้งดงามและ
โอชารส
และเครื่องปรุงบางอย่างเป็นของต่างชาติ ดังนั้นจึงสะท้อนภาพการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศได้อีกด้วย แสดงให้เห็นว่าอาหารไทยมีความประณีตบรรจงในการปรุงแต่ง และให้ความสำคัญกับความงดงามและรสชาติของอาหารควบคู่กันไป อาหารไทยจึงเป็นทั้งประณีตศิลป์และวิจิตรศิลป์ คนไทยได้ชื่อว่าเป็นเลิศในเรื่องฝีมือไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็ทำได้อย่างงดงาม ละเอียดประณีต อาหารไทยก็เช่นกัน ต้องอาศัยฝีมือในการปรุง นอกจากจะทำให้บริโภคอาหารได้มากแล้ว ยังมีลักษณะเป็นอาหารตา คือตกแต่งอย่างวิจิตรอีกด้วย การปรุงอาหารไทยให้มีกลิ่นหอม รสดี และมีความงดงามนั้น เริ่มตั้งแต่การรู้จักเลือกเครื่องปรุง ต้องเป็นของดี และผู้ปรุงต้องเลือกเป็นและเมื่อปรุงเสร็จแล้วยังต้องรู้จักวัดวางตกแต่งให้สวยงามน่ารับประทานทั้งรูปลักษณ์และสีสัน
การอ่านกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธ
เลิศหล้านภาลัยนี้ นอกจากจะได้ความรู้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้เห็นว่าอาหารเป็นเครื่องหมายแทนความรัก ความผูกพันและความเอื้ออาทรที่คนในครอบครัวมีต่อกัน การปรุงอาหารไทยจึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ฝีมือ ความประณีต และความตั้งใจในการประดิษฐ์ออกมาให้งดงามและ
โอชารส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น